การติดตั้งลูกบิด

1. ใช้แผ่นแม่แบบที่ติดมากับชุดลูกบิด ติดไว้ที่ประตูในตำแหน่งที่ต้องการทำการเจาะลูกบิด
2. ใช้เหล็กปลายแหลมทำเครื่องหมายลงบนประตู แล้วใช้ดอกสว่านชนิดใช้สำหรับเจาะช่องใส่ลูกบิด เช่น โฮลซอชุดเจาะลูกบิด
3. เจาะที่ด้านหน้าของประตูในตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้ และเจาะด้านสันของประตูโดยใช้ดอกเจาะหางปลาเมื่อใส่แกนล็อค
4. ให้วางแผ่นครอบแกนล็อกในตำแหน่งที่ติดตั้งแกนล็อคแล้วทำการขีดเส้นรอบแผ่นครอบ แล้วใช้สิ่วแซะเนื้อไม้ออกให้มีความลึกเท่ากับความหนาของแผ่นครอบ
5. ใส่ชุดเดือยล็อคเข้าไปในด้านสันประตู ใส่ฝาครอบเดือย แล้วใช้สกรูขันยึดติดแผ่นครอบให้แน่น
6. ใส่ลูกบิดส่วนที่อยู่ด้านนอกของห้องและตามด้วยส่วนที่อยู่ด้านในห้องโดยให้ปฏิบัติตามขั้นตอนจากบริษัทผู้ผลิตลูกบิด
7. การเจาะช่องรับเดือยล็อคที่ขอบวงกบโดยให้แกนกลางช่องที่เจาะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับแกนล็อค
8. ทำการติดตั้งแผ่นรับการกระแทกโดยวางแผ่นรับการกระแทกครอบรูที่เจาะ
9. ขีดทำเครื่องหมาย ใช้สิ่วแซะให้มีความลึกเท่ากับความหนาของแผ่นรับกระแทกแล้วใช้สกรูทำการยึดให้แน่น


สิ่งที่สำคัญของการติดตั้งลูกบิดประตูกับประตูไม้ 
      คือ กำหนดระดับ-ตำแหน่งลูกบิดให้ดี มิเช่นนั้นลูกบิดจะหลุดจาก "เคร่า" เพราะประตูไม้แต่ละแบบ แต่ละชนิดจะมี "เคร่าบาน" ที่เป็นตัวยึดบานที่มีตำแหน่งกำหนดไว้แน่นอนเกือบทุกชนิด จึงต้องพิจารณาตำแหน่งของเคร่าไม้เหล่านั้นว่าอยู่ ณ ที่ใดของตัวบานด้วย หากกำหนดตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นความสูง หรือระนาบซ้ายขวา ผิดไปจากตำแหน่งไม้เคร่าที่คนทำบานประตูกำหนดไว้ ลูกบิดก็จะไม่ยึดกับเคร่า มายึดกับตัวบาน ซึ่งมักจะเป็นแผ่นไม้บางๆ หรือ "ไส้บาน" ที่ทำด้วยวัสดุอย่างอื่นที่ไม่มีแรงดูดหรือแรงยึดเพียงพอสำหรับการติดลูกบิด ทำให้ลูกบิดที่เราติดเข้าไปหลวมไม่ติดแน่น

 

ข้อควรระวัง
       
อย่าเลือกลูกบิดโตกว่าบานกรอบ ลูกบิดส่วนใหญ่จะมีขนาดฝาครอบหรือฐานลูกบิดที่ติดไว้กับกรอบบานไม่เกิน 3 นิ้ว ทำให้ผู้ทำบานประตูส่วนใหญ่ทำกรอบบาน (ไม่รวมลูกฟัก) ประมาณไว้เพียงพอแค่ 3 นิ้ว แต่มีลูกบิดบางชนิด (ส่วนใหญ่จะเป็นลูกบิดพิเศษ และส่งมาจากเมืองนอก) ที่มีกรอบหรือฐานลูกบิดเกินกว่า 3 นิ้ว ก็จะทำให้ลูกบิดนั้นติดไม่ได้ หรือติดแล้วจะดูไม่สวยนั่นเอง