วัสดุปูพื้น แบบไหนที่เหมาะกับห้องคุณ?

วัสดุปูพื้น แบบไหนที่เหมาะกับห้องคุณ? 

พื้นเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญของบ้าน ที่หลาย ๆ คน จะมองข้ามหรือละเลยไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้หากไม่แข็งแรงหรือใช้เป็นวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมาย เจ้าของบ้านจึงจำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและสะดวกสบาย และนอกจากนี้ เราเองก็ต้องรู้ด้วย ว่าวัสดุแต่ละชนิดภายในห้องของเรานั้นเป็นแบบไหน

วันนี้ทางสุขสวัสดิ์จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องพื้น ๆ ที่เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของบ้าน โดยเราจะแนะนำตั้งแต่เรื่องของความสำคัญของพื้นห้อง ประเภทวัสดุปูพื้นต่าง ๆ มีอะไรกันบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจ เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ‼️

 

1.พื้นไม้จริง (wood flooring) ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ ที่มีสีสันอบอุ่น ดูหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งคนไทยนิยมใช้ไม้มาตั้งแต่สมัยอดีตกาล เนื่องด้วยไม้ในอดีตเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย ปลูกทดแทนได้ ไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำพื้นเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้สัก เป็นต้น

 

 

2.ไม้ลามิเนต(Laminate) เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับไม้จริง วัสดุปูพื้นลามิเนตนี้จริง ๆ แล้วก็เป็นพื้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่ผ่านกระบวนการผสมระหว่างวัสดุธรรมชาติ และวัสดุสังเคราะห์ ที่ผลิตจากเยื่อไม้บดละเอียดและอัดขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี HDF (High Density Fiber) ลดการบิดงอของตัวไม้ ปิดผิวด้านบนด้วยฟิลม์กระดาษที่มีลวดลายเสมือนไม้จริง และผิวหน้าเคลือบด้วยอลูมิเนียมอ็อกไซด์ เพื่อเพิ่มความคงทนต่อแรงกระแทกป้องกันการกระแทก และรอยขีดข่วน ส่วนชั้นล่างสุดของแผ่นไม้ คือแผ่นเมลามีนเรซิ่น เสริมความแข็งแกร่งและป้องกันความชื้น

 

3.กระเบื้องยางไวนิล
พลาสติกชนิดพิเศษมีส่วนผสมระหว่างพลาสติกคุณภาพสูงรวมกับสารเพิ่มประสิทธิภาพต่างๆ เช่นสารเพิ่มความทนทานต่อแสงแดด สารเพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก นอกจากจะทนทานต่อแสงแดดรังสียูวีและสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงแล้วยังเป็นวัสดุที่ไม่มีปัญหาเรื่องปลวกหรือแมลงกัดเจาะ การผุกร่อนหรือบิดงอ การเกิดสนิม การรั่วซึมของน้ำฝน ไม่ติดไฟ และอายุการใช้งานของกระเบื้องยางนั้นอยู่ได้มากกว่า 10 -15 ปี
-กระเบื้องยาง SPC (Stone Plastic Composite)
กระเบื้องยางพื้น SPC หรือ Stone Plastic Composite เป็นตัวที่พัฒนามาจากกระเบื้องยางไวนิลที่มีส่วนผสมระหว่าง พลาสติก PVC ที่มีคุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่น และ แคลเซียมคาร์บอเนต ที่ให้คุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน โดยผิวหน้าของวัสดุ เป็นลายไม้ มีให้เลือกหลายสี และ หลายลวดลาย เคลือบผิวชั้นบนสุดของวัสดุด้วยชั้น Wear Layer หรือชั้นเคลือบผิวหนา 0.30 มม ที่ทำหน้าที่ป้องกันรอยขูดขีด และรองด้วยโฟมมากับวัสดุเพื่อความนุ่มสบายเท้า และสามารถติดตั้งแบบเข้าลิ้นคลิ๊ก ทับพื้นผิวที่เรียบ ได้เลย โดยที่ไม่ต้องทากาว เหมาะสำหรับปูภายใน ที่มีทั้งลายไม้ และ ลายก้างปลา

 

 

4.ไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood) ที่มีความสวยงาม คงทน แถมได้ผิวสัมผัสของไม้จริง ๆ
ส่วนประกอบของไม้เอ็นจิเนียร์
1.ชั้นผิวหน้าไม้จริง เช่น ไม้โอ้ค ไม้แอช ไม้บีช ไม้มะค่า ไม้สัก ไม้เมเปิ้ล ไม้วอลนัท และ อื่นๆ อีกมากมายที่มีความหนา 3 มิลลิเมตร
2.ชั้นต่อมาเป็นไม้อัดกันชื้นมาฝนเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาซ้อนทับกันเป็นชั้นๆจะวางแบบสลับกันไปมาในแต่ละชั้น 7-9 ชั้น เพื่อลดการยืด หด บิด งอทำให้ไม้มีความคงตัวมากกว่าพื้นไม้จริงทั้งชิ้น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์